ทุกวันนี้ เรามีขยะครัวเรือนที่ต้องนำมากำจัดหรือทิ้งอยู่เยอะ
วันนี้มิสเตอร์คิว จึงขอนำเสนอ 8 วัตถุดิบธรรมชาติที่หาได้ง่ายจากในบ้าน เอามาใช้ในการบำรุงดิน ช่วยให้พืชให้แข็งแรง โตเร็ว ให้ผลผลิตงาม ๆ แบบปลอดภัยกัน
.
1. บำรุงดินด้วยเปลือกกล้วย
เปลือกกล้วย มีคุณค่าอย่าเพิ่งทิ้ง! เปลือกกล้วยเป็นแหล่งอาหารชั้นดีของดิน เพราะเต็มไปด้วยแคลเซียม ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม รวมถึงยังมีวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อดินอีกนับไม่ถ้วน
???? วิธีการในการนำเปลือกกล้วยมาใช้บำรุงดินก็มีด้วยกันหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการสับเปลือกกล้วยเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วใส่ผสมลงในปุ๋ย เพื่อทำเป็นปุ๋ยหมัก หรือจะบดเปลือกกล้วย แล้วนำไปตากแห้ง จากนั้นก็นำไปผสมกับปุ๋ยหรือดิน หรือจะใช้ทั้งเปลือกเลยก็ได้ แต่ต้องฝังลงไปในดินให้ลึกหน่อย อย่างน้อยสัก 4 นิ้ว แล้วกลบให้มิดชิด และรอเปลือกกล้วยย่อยสลายกลายเป็นอินทรีย์วัตถุในดินต่อไป
.
2. กากกาแฟ
เพียงแค่คลุกกากกาแฟกับดินก็ช่วยเพิ่มสารอาหารได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นไนโตรเจน แมกนีเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส และทองแดง ซึ่งล้วนเป็นสารอาหารที่ต้นไม้ต้องการ แถมยังทำให้เกิดจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ช่วยดึงดูดไส้เดือนดินเข้ามาชอนไช ที่สำคัญแม้จะไม่ได้ชงกาแฟดื่มเองก็ยังเป็นวัสดุที่หาได้ง่ายมาก ๆ อาจจะขอมาจากร้านขายกาแฟสดทั่วไป
.
3. ขี้เถ้า
สำหรับดินที่มีปัญหาดินเปรี้ยวหรือดินที่มีความเป็นกรดสูง แนะนำให้โรยขี้เถ้าลงไปรอบ ๆ โคนต้นไม้ ก็จะช่วยปรับสภาพดินให้มความเป็นด่างเพิ่มขึ้นได้ นอกจากนี้ในขี้เถ้ายังอุดมไปด้วยโพแทสเซียมและแคลเซียม ที่จะช่วยเร่งดอกไม้ให้บานสะพรั่ง
.
4. วัชพืช
ถึงแม้ว่าวัชพืชจะเป็นศัตรูตัวฉกาจของต้นไม้ แต่บางชนิดก็สามารถนำมาใช้บำรุงดินได้ เช่น ต้นตำแย โดยนำต้นที่ไม่มีดอกไปตากแดดให้แห้งทั้งต้นและราก เพื่อป้องกันไม่ให้วัชพืชเจริญเติบโตได้อีก แล้วนำไปคลุมหน้าดิน ก็จะช่วยเพิ่มไนโตรเจนให้กับต้นไม้ได้ หรือจะเป็นผักตบชวา ที่มีธาตุโพแทสเซียมสูง และธาตุไนโตรเจน และฟอสฟอรัสอยู่พอประมาณขึ้นอยู่กับสภาพน้ำที่ขึ้น นำมาหมักทำเป็นปุ๋ย หรือ นำไปคลุมดิน เพื่อช่วยรักษาความชื้นไว้ในดิน ป้องกันวัชพืชขึ้น และเมื่อสลายตัว ก็จะกลายเป็นอินทรีย์วัตถุและปุ๋ยให้แก่พืชต่อไป
.
5. เปลือกไข่
ถึงแม้ในเปลือกไข่จะมีโพแทสเซียมและไนโตรเจนไม่เยอะเท่ากับของเหลือใช้อื่น ๆ แต่เปลือกไข่ถือเป็นแหล่งแคลเซียมชั้นดีเลยทีเดียว แถมยังช่วยป้องกันไม่ให้หอยทากมากัดกินต้นไม้ของเราได้ด้วย โดยการทำความสะอาดเปลือกไข่ ตากให้แห้ง นำมาบดให้ละเอียดและโรยรอบ ๆ ต้นไม้ หรือ แปลงผัก
.
6. เปลือกหอยนางรม
นำเปลือกหอยนางรมมาทำเป็นปุ๋ยละลายช้าได้ ซึ่งจะเหมาะมาก ๆ สำหรับต้นไม้ที่ต้องการดินที่มีความเป็นด่าง เพราะในเปลือกหอยนางรมมีแคลเซียมคาร์บอเนต สารอาหารที่ช่วยปรับให้ดินเป็นด่าง ส่วนวิธีก็คล้าย ๆ กับการใช้เปลือกไข่เลยก็คือ นำเปลือกหอยนางรมมาทำความสะอาดและบดให้แตกละเอียดแล้วนำไปโรยรอบ ๆ ต้นไม้เท่านั้นเอง
.
7. น้ำจากตู้ปลา
เมื่อถึงเวลาเปลี่ยนน้ำในตู้ปลา สามารถนำไปรดน้ำต้นไม้ได้้้้้้ เพราะน้ำในตู้ปลามีสารอาหารที่ช่วยบำรุงดินและต้นไม้อยู่เพียบ ไม่ว่าจะเป็นไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม แต่ทั้งนี้ควรเป็นน้ำที่ไม่มียาปฏิชีวนะหรือยาอื่น ๆ เจือปน เพราะสารจากยาเหล่านี้จะไปฆ่าเชื้อแบคทีเรียดี ๆ ในดินนั่นเอง
.
8. ใบชา
แนะนำให้เลือกถุงชาที่ทำจากกระดาษ ผ้าไหม หรือผ้ามัสลิน เพราะวัสดุเหล่านี้สามารถย่อยสลายตามธรรมชาติได้ แต่ถ้าหากเป็นถุงชาพลาสติกประเภทโพลีโพรพิลีน (Polypropylene) ให้ตัดถุงแล้วเอาเฉพาะกากใบชามาใช้แทน จากนั้นนำไปคลุกกับดิน ก็จะช่วยเพิ่มสารอาหารต่าง ๆ ทั้งออกซิเจนที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของจุลลินทรีย์ที่มีประโยชน์ ไนโตรเจนที่ช่วยปรับคาร์บอนให้สมดุลลดการเกิดวัชพืช นอกจากนี้ยังมีสารแทนนินที่ช่วยบำรุงต้นกล้าให้เจริญเติบโตแข็งแรงด้วย
.
นอกเหนือจากวัตถุดิบข้างต้นแล้ว ยังมีการนำขยะสด หรือ เศษอาหาร นำไปหมักทำเป็นปุ๋ยได้อีกทาง
ขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.kasetsanjorn.com/3394/