อาการผิดปกติที่เกิดในมังคุด สามารถเกิดได้จากการเข้าทำลายของแมลง และเชื้อราที่เป็นสาเหตุของโรคพืชต่างๆ ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อปริมาณผลผลิตและคุณภาพของมังคุด โรค แมลง และอาการผิดปกติที่สำคัญที่วันนี้มิสเตอร์คิว ขอมานำเสนอได้แก่
1. เพลี้ยไฟ (Thrips)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Scirtothrips dorsalis Hood
เป็นแมลงขนาดเล็ก เคลื่อนไหวตัวได้รวดเร็ว จะระบาดในช่วงที่อากาศแห้งแล้งติดต่อกันนานๆ
ลักษณะการเข้าทำลาย
โดยทั้งตัวอ่อนและตัวแก่ของเพลี้ยไฟ จะดูดกินน้ำเลี้ยงจากยอดอ่อน ดอกอ่อน และผลอ่อนของมังคุด หากเป็นยอดอ่อนจะทำให้ยอดแห้ง แต่หากเป็นดอกอ่อนและผลอ่อนจะทำให้ดอกร่วง และผลมีรอยสีน้ำตาลกร้านมียางไหลและจะทำให้ผลร่วงได้ ศัตรูชนิดนี้นับเป็นศัตรูสำคัญที่มีผลกระทบในการส่งออกมังคุดเป็นอย่างมาก
พืชอาหาร
เพลี้ยไฟพริกระบาดทำลายไม้ผลได้หลายชนิดเช่น ทุเรียน มังคุด มะม่วงเงาะ ส้มโอส้มเขียว หวาน ลิ้นจี่และลำไย
ศัตรูธรรมชาติ
ศัตรูธรรมชาติของเพลี้ยไฟ เช่น แมงมุมชนิดต่างๆ ตัวอ่อนแมลงช้าง และเพลี้ยไฟตัวห้ำ
การป้องกันกำจัด
เมื่อมังคุดเริ่มติดดอกให้หมั่นตรวจดูดอกมังคุด
หากพบว่ามีเพลี้ยไฟอยู่ตามโคนก้านดอกหรือตามกลีบดอกให้ฉีดพ่นสารเคมีประเภทดูดซึม เช่น "วีเกอรา เอสแอล" (อิมิดาคลอพริด : imidacloprid 10% SL) อัตรา 20 ซีซี หรือ "โปรโตคอพ" ไทอะมีทอกแซม(thiamethoxam) 25% WG อัตรา 2-4 กรัม หรือ คาร์โบซัลแฟน (carbosulfan) 20% EC อัตรา 40 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
ไม่ควรใช้สารฆ่าแมลงชนิดใดชนิด หนึ่งซ้ำติดต่อกันหลายครั้ง เพราะทำให้เพลี้ยไฟสร้างความต้านทานต่อสารฆ่าแมลง
หลังพ่นสารเคมีแล้ว 5-7 วัน ให้ตรวจดูอีก หากยังพบอยู่ให้พ่นซ้ำ
การป้องกันกำจัดเพลี้ยไฟ ให้ได้ผลดี ควรทำพร้อมกันกับสวนข้างเคียงเพื่อป้องกันการเคลื่อนย้ายของแมลง
-----------------------------
2. หนอนกินใบอ่อน
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Stictoptera sp.
เป็นหนอนของผีเสื้อชนิดหนึ่งขนาดของตัวหนอน ยาวประมาณ 2 ถึง 2.5 เซนติเมตร สีของตัวหนอนเหมือนกับสีของใบอ่อนมังคุด (สีเขียวแกมเหลือง) ถ้าหากไม่สังเกตอย่างละเอียดรอบคอบจะมองไม่เห็น จะระบาดในระยะที่เป็นช่วงแตกใบอ่อนของมังคุด
ลักษณะการเข้าทำลาย
หนอนกินใบอ่อนมังคุดจะกัดกินใบมังคุดในเวลากลางคืน ส่วนกลางวันจะหลบลงดินหรืออาศัยตามเศษซากใบไม้หรือ ระหว่างใบในทรงพุ่มมังคุดที่มีความมืดทึบ ตัวหนอนจะกัดกินแต่ใบอ่อนเท่านั้น ลักษณะการทําลายทําให้ใบเว้าๆ แหว่งๆ เหลือ แต่ก้านใบทําให้เสียพิ้นที่ใบในการสังเคราะห์แสง มังคุดขาดความสมบูรณ์เจริญเติบโตช้า
หากมีการระบาดรุนแรง ใบอ่อนจะ ถูกกินจนหมด และถ้าหนอนชนิดนี้ ระบาดในช่วงที่มังคุดแตกใบอ่อนชุดสุดท้าย ก่อนถึงช่วงที่สภาพแวดล้อมเหมาะสมกับการออกดอก จะมีผลกระทบต่อการเกิดตาดอกและติดผล โดยต้นท ี่ใบอ่อนถูกทําลายมากๆ จะมี การแตกใบอ่อนชุดใหม่ชดเชย ส่งผลให้ตายอดของมังคุดจะมีอายุไม่ถึง 9 สัปดาห์เมื่อถึงช่วงที่สภาพแวดล้อมเหมาะสมตายอด จะไม่พัฒนาเป็นดอก จึงทําให้การออกดอก ติดผล และคุณภาพของผลผลิตลดลง
การป้องกันกำจัด
หมั่นตรวจดูร่องรอยการทําลายและประชากรตัวหนอนที่ใบอ่อน หากพบว่ามีการทําลายมากกว่า 20% ของยอดมังคุดทั้งหมด แสดงว่าอยู่ในระดับที่ต้องดําเนินการควบคุม
หากมีการระบาดไม่มากนักให้หาเศษหญ้าแห้งกองรอบโคนต้นมังคุด พอตอนสายๆ ให้รื้อกองหญ้าเพื่อทําลายหนอน เนื่องจากหนอนจะทิ้งตัวมาหลบซ่อนอยู่ในกองหญ้า หรือใช้สารสกัดจากสะเดาฉีดพ่น
หากมีการระบาดรุนแรงให้ฉีดพ่นด้วยสารเคมีเช่น "บัคคลิน" (แลมบ์ดาไซฮาโลทริน : lambdacyhalothrin 2.5 % EC) อัตรา 20 ซีซี ผสมร่วมกับยาเชื้อ "บาเซียโน เอชซี" (เชื้อบาซิลลัส ทูริงเยนซีส ไอซาวาย 50,000 IU/mg) อัตรา 30-50 กรัม ต่อน้ํา 20 ลิตร ทุก ๆ5-7 วัน โดยฉีดพ่นเฉพาะจุดที่พบการทําลายของหนอน และควรฉีดพ่นช่วงเย็น เนื่องจากหนอนชนิดนี้จะขึ้นมากัดกินใบอ่อนในตอนกลางคืน
-----------------------------
3. หนอนชอนใบ (leafminer)
ชื่อวิทยาศาสตร์: Acrocercops sp. และ Phyllocnistis sp
ชอบชอนไชทำลายใบอ่อนมังคุด พบการระบาดรุนแรงมากขณะ มังคุดแตกใบอ่อน โดยเฉพาะในระยะต้นกล้าของมังคุด ตัวหนอนที่ฟักจากไข่ชอนไชเป็นทางยาวหรือสร้าง เป็นอุโมงค์กัดกินและขับถ่ายอยู่ภายใน
ลักษณะการเข้าทำลาย
ใบมังคุดที่ถูกทำลายจะแสดงลักษณะแคระแกรน บิดเบี้ยว เนื่องจากเซลล์และเนื้อเยื่อบางส่วน ของใบถูกทำลายตั้งแต่ใบอ่อนยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ ถ้ามีการระบาดรุนแรงอาจพบหนอนชอนใบมากกว่า 1 ตัวต่อใบ ทำให้มังคุดมีใบไม่สมบูรณ์โดยเฉพาะในระยะต้นกล้า ชะงักการเจริญเติบโต
สำหรับต้นมังคุดที่โตแล้วการถูกทำลายรุนแรง ทำให้มังคุดแตกใบอ่อนบ่อยครั้งเพื่อชดเชยใบที่ไม่สมบูรณ์ ซึ่งใบอ่อนเป็นตัวดึงดูดแมลงศัตรูชนิดอื่นๆ เข้ามาทำลายมังคุดเพิ่มขึ้น
การป้องกันกำจัด
-----------------------------
4. โรคใบจุด
เชื้อราสาเหตุ : Pestalotiopsis flagisettula (Guba) Stay
ราสาเหตุสร้างสปอร์แพร่กระจายไปตามลม ระบาดมากในฤดูฝน ถ้าพบโรคใบจุดที่ใบมากและ ช่วงที่ติดผลมีความชื้นสูง ฝนตกชุกโรคจะเข้าทำลายผลมังคุดด้วย
ลักษณะการเข้าทำลาย
เกิดจากการทำลายของเชื้อราเข้าทำลายใบเกิดเป็น รอยแผลไหม้สีน้ำตาลมีขอบแผลสีเหลือง รูปร่างของแผลไม่แน่นอน ทำให้ใบเสียเนื้อที่ในการสังเคราะห์แสง ความสมบูรณ์ของต้นลดลง และถ้าระบาดรุนแรงใบจะแห้งทั้งใบและร่วงหล่น ทำให้ผลมังคุดไม่มีใบปกคลุม ผิวของผลมังคุดจะกร้านแดดไม่สวย การเข้าทำลายของแมลงกัดกินใบ หรือหนอนชอนใบจะส่งเสริมอาการของโรคให้รุนแรงขึ้น นอกจากนี้รา ยังสามารถเข้าทำลายลำต้นด้วย โดยเฉพาะในระยะต้นกล้า
การป้องกันกำจัด
การทำความสะอาดแปลงปลูก กำจัดวัชพืชที่เป็นแหล่งสะสมโรค
พ่นสารเคมีป้องกันกำจัดโรคพืช เช่น "โกลด์ทิป 76" (สารซีแรม 76%WG) อัตรา 20 กรัม หรือ "ซอร์บา" (สารอะซอกซีสโตรบิน : Azoxystrobin 25% W/V SC) อัตรา 5-10 ซีซี ผสมร่วมกับฟิกเซอร์ 408 อัตรา 2-3 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร เป็นต้น ในช่วงที่มังคุดแตกใบอ่อน 1 - 2 ครั้ง
ป้องกันกำจัดแมลงพวกหนอนชอนใบ เพื่อลดการเกิดแผลบนใบ
-----------------------------
5. เนื้อแก้วและยางไหล
สาเหตุ : เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาของผลเมื่อได้รับน้ำมากเกินไปในช่วงผลใกล้แก่ ถ้ามี ฝนตกมากต้นมังคุดก็จะดูดน้ำเข้าไปมากด้วยเช่นกัน ผลคือลูกมังคุดมีน้ำมากเกินไป ซึ่งน้ำเหล่านี้จะเข้าไป แทนที่อากาศส่วนหนึ่ง ทำให้ช่องว่างลดลงเกิดเป็นเนื้อใสที่เต็มไปด้วยน้ำและที่สำคัญคือเมื่อผลมังคุด มีน้ำมากก็จะขยายตัวมากเกินไปจึงมีผลทำให้ท่อน้ำยางแตกและเกิดอาการยางไหลในผลมังคุด
ลักษณะอาการ
เนื้อมังคุดที่เป็นเนื้อแก้ว จะใสและมีลักษณะคล้ายฉ่ำน้ำอยู่ภายใน อาการเนื้อแก้วมักเกิดกับกลีบเนื้อหรือพูที่มีเมล็ดและลุกลามไปยังพูข้างเคียง มังคุดเนื้อแก้วจะมีความกรอบ และรสชาติค่อนข้างจืด อาการเนื้อแก้วถ้าเป็นรุนแรงอาจสังเกตได้จากภายนอก คือ ผิวของเปลือกจะมีรอยร้าว ตามแนวนอน ถ้ารอยร้าวนั้นยาวอาการเนื้อแก้วในผลจะมีมาก แต่หากอาการเนื้อแก้วมีเพียงเล็กน้อยจะ ไม่สามารถสังเกตเห็นอาการผิดปกติใดๆ บนผิวของผล
อาการยางไหลจะสังเกตเห็นน้ำยางสีเหลืองบางส่วนไหลออกมาเป็นจุดๆ บนเปลือก
การป้องกัน
จัดการต้นมังคุดให้ออกดอกเร็วกว่าฤดูกาลเพื่อให้สามารถเก็บเกี่ยวได้ก่อนที่ฝนจะตกชุก โดยกระตุ้นให้มีการแตกใบอ่อนเร็วขึ้นและเสริมสร้างการเจริญเติบโตทางใบโดยการจัดการธาตุอาหาร พืชที่เหมาะสม สร้างสภาพแวดล้อมให้ต้นมังคุดได้พักตัวเร็วขึ้น เพื่อการชักน้ำให้ออกดอกได้เร็วกว่าปกติ
อาการเนื้อแก้วของมังคุดอาจจะป้องกันได้โดยการให้น้ำมังคุดอย่างสม่ำเสมอในช่วงติดผล การบำรุง รักษาต้นให้มีความสมบูรณ์ปราศจากความเสียหายจากอาการใบไหม้ใบจุดหรือใบร่วง ซึ่งจะ ช่วยให้มังคุดมีทรงพุ่มที่มีกิ่งและใบสมบูรณ์การได้รับน้ำมากเกินไปอาจมีผลกระทบน้อยลงหรือไม่มีเลย ก็ได้กับอาการเนื้อแก้วหรืออาการยางไหลบนผล
มีการให้น้ำเหนือทรงพุ่มเป็นระยะๆ ในขณะที่ผลมังคุดเจริญเติบโตเต็มที่
-----------------------------
ข้อมูลอ้างอิง
- สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์กรมหาชน) : https://www.arda.or.th/kasetinfo/south/mangosteen/controller/01-03.php
- กรมวิชาการเกษตร : เอกสารวิชาการ "โรคมังคุด" https://www.doa.go.th/share/attachment.php?aid=2733
- กรมวิชาการเกษตร : เอกสารวิชาการ "แมลงและไรศัตรูมังคุด" https://www.doa.go.th/share/attachment.php?aid=2734